คำถามและคำตอบเกี่ยวกับประกันสุขภาพในประเทศไทย


การเลือกแผนประกันสุขภาพถือเป็นเรื่องค่อนข้างท้าทาย ตัวเลือกที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น อายุ สมาชิกครอบครัว สภาพร่างกายโดยรวม และงบประมาณ เอเอ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพต่างๆ สิทธิประโยชน์ ข้อดีและข้อเสียต่างๆ ดังนั้นคุณและครอบครัวจึงวางใจได้ว่า คุณจะได้ประกันสุขภาพที่ดีที่สุด

ในประเทศไทย มีประกันสุขภาพ 2 แบบคือ
1. กรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองเกือบ 100% และ
2. กรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแบบจำกัด
กรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแบบจำกัดโดยทั่วไปมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่า แต่ก็จำกัดความคุ้มครองแทบทุกรายการ เช่น ค่าห้องและอาหารสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท/วัน กรมธรรม์เหล่านี้อาจทำให้คุณต้องออกค่าใช้จ่ายบางส่วน (ที่สำคัญ) เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอง

ผู้ป่วยใน (รักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น) เป็นคำที่ใช้ในกรณีที่คุณเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กล่าวคือ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ป่วยนอกเป็นการบริการที่คุณได้รับกรณีที่ไปโรงพยาบาลและเข้าพบแพทย์ทั่วไป ได้รับยาตามใบสั่งยา และกลับบ้าน โปรดทราบว่า คำจำกัดความของผู้ป่วยในอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบริษัทประกันภัย เช่น ไม่ได้หมายถึงการค้างคืนเสมอไป บางครั้งการได้นอนโรงพยาบาลในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างวันก็ถือเป็นผู้ป่วยใน

ทางที่ดีที่สุดควรเพิ่มความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยนอกด้วยแม้ว่าคนทั่วไปที่อยู่ในประเทศไทยจะเลือกแผนสำหรับผู้ป่วยในเท่านั้นก็ตาม เหตุผลก็คือค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยนอกในประเทศไทยนั้นไม่แพงมากและการเพิ่มความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยนอกก็ค่อนข้างแพง อย่างไรก็ดีหากไม่ได้ทำประกันผู้ป่วยนอกไว้ ก็อาจเป็นเรื่องเสี่ยง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกนั้นไม่แพงมากหากคุณไปพบแพทย์ปีละครั้งกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อย แต่หากป่วยด้วยโรคเรื้อรังก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงเพราะคุณต้องรับยาต่อเนื่องไปตลอดชีวิต ควรตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองการรักษาโรคมะเร็งสำหรับผู้ป่วยนอกด้วยเพราะมักมีราคาแพงมาก แผนประกันภัยจำนวนมากให้ความคุ้มครองผู้ป่วยใน แต่จะดีกว่าหากคุณเลือกรับความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับผู้ป่วยนอกด้วย

แม้จะเลือกทำประกันเฉพาะผู้ป่วยในได้ แต่กับกรณีผู้ป่วยนอกเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะแผนประกันภัยเบื้องต้นนั้นเป็นแผนประกันภัยสำหรับผู้ป่วยใน คุณสามารถเลือกรับความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมจากแผนประกันผู้ป่วยในได้ เช่น ผู้ป่วยนอก ทันตกรรม การมองเห็น การคลอดบุตร เป็นต้น

ระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ประกันยังไม่เริ่มความคุ้มครองแม้จะเข้าเกณฑ์อาการทางสุขภาพและ/หรือความเจ็บป่วยตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันสุขภาพของท่านก็ตาม ทันทีที่ระยะเวลารอคอยสิ้นสุดลง บริษัทประกันจะไม่สามารถปฏิเสธการเรียกร้องค่าสินไหมได้

เป็นจำนวนเงินที่คุณจำเป็นต้องจ่ายเองก่อนที่ผู้รับประกันจะชดใช้ค่าสินไหมในส่วนที่เกินจากนี้ เช่น คุณมีความรับผิดส่วนแรกที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ และทางโรงพยาบาลเรียกเก็บเงินมา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ คุณต้องจ่ายเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐเอง ส่วนที่เหลืออีก 8,000 ดอลลาร์สหรัฐนั้นทางผู้รับประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ กรณีเป็นความรับผิดส่วนแรกรายปี คุณจะจ่ายความรับผิดส่วนแรกเพียง 1 ครั้งต่อปีกรมธรรม์เท่านั้น หรืออาจเป็นความรับผิดส่วนแรกต่อความเจ็บป่วย/อุบัติเหตุแต่ละครั้ง หากคุณมีกรมธรรม์ลักษณะดังกล่าว ก็เป็นไปได้ว่า คุณต้องจ่ายความรับผิดส่วนแรกหลายครั้งในแต่ละปี แม้ว่าระบบนี้จะดูไม่ค่อยน่าทำเท่าไร แต่มีข้อดีคือหากต้องรักษาต่อเนื่องเมื่อขึ้นปีกรมธรรม์ใหม่ ซึ่งคุณจะไม่ต้องจ่ายความรับผิดส่วนแรกอีก ขณะที่ถ้าเป็นความรับผิดส่วนแรกรายปี คุณยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่

ได้ ในแต่ละปีเมื่อครบกำหนดต้องต่ออายุกรมธรรม์ คุณสามารถปรับเปลี่ยนระดับความรับผิดส่วนแรกโดยบริษัทประกันจะถือว่าเป็นการลดระดับแผนประกันสุขภาพหากคุณปรับเพิ่มจำนวนเงินความรับผิดส่วนแรก การลดระดับแผนประกันภัยไม่จำเป็นต้องกรอกแบบสอบถามสุขภาพใหม่ และ/หรือตรวจสุขภาพใหม่ การปรับลดจำนวนเงินความรับผิดส่วนแรกจะถือเป็นการเพิ่มระดับแผนประกันสุขภาพ เมื่อคุณเพิ่มระดับแผนประกันภัย บริษัทต่างๆ ก็มักจะขอให้คุณกรอกแบบสอบถามสุขภาพใหม่ หากตรวจพบว่ามีปัญหาสุขภาพใหม่เกิดขึ้นก่อนปรับระดับแผนประกันสุขภาพ ก็มีโอกาสที่จะมีการกำหนดข้อยกเว้นไว้ในแผนประกันสุขภาพฉบับใหม่ของคุณได้

การร่วมจ่ายหรือการแบ่งปันต้นทุนเป็นจำนวนค่าใช้จ่ายแบบตายตัว หรือเปอร์เซ็นต์ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องชำระสำหรับบริการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง บริษัทประกันจะเสนอตัวเลือกนี้ให้เพื่อลดเบี้ยประกันลง อาจเป็นจำนวนเงินตายตัวต่อการรักษาแต่ละครั้งหรือเปอร์เซ็นต์ตายตัวของใบแจ้งหนี้ ส่วนใหญ่คุณต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เมื่อเข้ารับบริการ

สภาพร่างกายใดๆ ที่แพทย์ได้วินิจฉัยมาก่อนแล้วก่อนที่แผนประกันสุขภาพของคุณจะมีผลถือเป็นสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย โปรดทราบว่า หากคุณเปลี่ยนบริษัทผู้รับประกัน บริษัทประกันรายใหม่อาจไม่ให้ความคุ้มครองสำหรับอาการใดๆ ที่คุณได้รับการรักษามาก่อนแล้วเมื่อทำประกันกับผู้เอาประกันรายเดิม สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัยส่งผลให้ผู้รับประกันมีความเสี่ยงสูงขึ้น ดังนั้นจึงเลือกจะไม่ให้ความคุ้มครองหรือมีส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกัน

สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัยมักถูกยกเว้น แต่บางกรณีก็มีการให้ความคุ้มครอง ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
1) สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัยเป็นลักษณะใด?
2) ประสบกับสภาพดังกล่าวมานานแค่ไหน?
3) ยังได้รับการรักษาหรือได้รับการรักษาจนหายแล้วหรือไม่?
จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และความเสี่ยงในอนาคตสำหรับบริษัทผู้รับประกันในการรับมือกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป จึงไม่สามารถให้คำตอบได้อย่างแน่ชัด เราแนะนำให้ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพของเราซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือคุณในการเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมได้

ส่วนใหญ่แล้วไม่มี แต่ก็อาจมีข้อยกเว้นอื่นๆ ผู้รับประกันอาจมีข้อยกเว้นหรือส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกันหากผู้เอาประกันมีความเสี่ยงมากขึ้น เช่น ค่าบีเอ็มไอที่สูงขึ้นอาจทำให้ต้องมีส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกัน หากในหลายปีถัดจากนี้ ผู้เอาประกันพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ค่าบีเอ็มไอไม่ได้สูงขึ้น ก็อาจมีการยกเว้นส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกันได้

กรณีที่คุณซื้อประกันใหม่ซึ่งเป็นการรับประกันสุขภาพแบบเต็มรูปแบบ คุณต้องกรอกแบบสอบถามสุขภาพโดยละเอียดซึ่งประกอบด้วยคำถามต่างๆ เกี่ยวกับประวัติการรักษาและสภาพร่างกายในปัจจุบันของคุณ แบบสอบถามสุขภาพนี้อาจสอบถามข้อมูลย้อนหลังในช่วงเวลาที่ผ่านมาหรือช่วงหลายปี การรับประกันแบบ FMU ทำให้ผู้รับประกันทราบรายละเอียดประวัติสุขภาพของผู้รับบริการได้อย่างครบถ้วน และตัดสินใจเกี่ยวกับข้อกำหนดความคุ้มครองได้ คุณอาจได้รับข้อเสนอแบบที่มีหรือไม่มีข้อยกเว้นเรื่องสุขภาพและมีหรือไม่มีส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกัน การทำประกันแบบ FMU จะทำให้คุณทราบตั้งแต่ต้นว่า คุณจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง

กรณีที่คุณซื้อประกันใหม่ คุณสามารถเลือกรอคอยให้ผ่านพ้นข้อยกเว้น ผู้ที่มีประวัติการรักษาและต้องการหลีกเลี่ยงข้อยกเว้นมักเลือกใช้วิธีนี้ แบบฟอร์มการซื้อประกันจะไม่มีคำถามสุขภาพเลยหรือมีเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น

ตัวอย่างโดยทั่วไปของการรับประกันแบบรอคอยให้ผ่านพ้นข้อยกเว้นคือ ไม่คุ้มครองปัญหาสุขภาพใดๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสองปีล่าสุด (มักกำหนดไว้ห้าปีสำหรับโรคหัวใจหรือมะเร็ง) ก่อนที่กรมธรรม์นี้มีผลบังคับใช้ คุณจะได้รับความคุ้มครองสุขภาพตามกรมธรรม์หากคุณไม่เคยมีอาการ เข้ารับการรักษา ขอคำปรึกษา ได้รับยา ฯลฯ หลังจากทำประกันกับผู้รับประกันมาต่อเนื่องสองปี (ห้าปีสำหรับโรคหัวใจหรือมะเร็ง) ช่วงเวลานี้เรียกว่าช่วงเวลารอคอยข้อยกเว้น

โดยส่วนตัวแล้ว เอเอไม่สนับสนุนให้ทำประกันแบบนี้เพราะในทุกครั้งที่เคลมประกัน ผู้รับประกันจะขอดูประวัติการรักษาของคุณเป็นอย่างแรก และขอข้อมูลจากโรงพยาบาลหรือแพทย์ที่ทำการรักษาคุณ ซึ่งทำให้กระบวนการต่างๆ ล่าช้าออกไป และทำให้คุณต้องรอให้ผู้รับประกันอนุมัติก่อนจะได้รับการผ่าตัดแบบไม่ฉุกเฉิน

ใช่ เบี้ยประกันสุขภาพปรับเพิ่มขึ้นตามอายุ เบี้ยประกันจะปรับขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นเนื่องจากผู้รับประกันต้องรับความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย อาจปรับเพิ่มเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์หรือปรับเพิ่มขึ้นมากทุกช่วง 5 ปีขึ้นอยู่กับแผนประกันภัย

อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลก็ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากทางโรงพยาบาลต่างๆ ปรับเพิ่มค่าบริการเป็นรายปี ค่าใช้จ่ายนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วปรับเพิ่มขึ้น 8 ถึง 9 % ต่อปี เมื่อถึงจุดหนึ่งผู้รับประกันก็ต้องนำค่าใช้จ่ายนี้ไปสะท้อนอยู่ในค่าเบี้ยประกัน และผู้รับประกันที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการก็จะกำหนดเพดานค่าใช้จ่ายดังกล่าวเพื่อควบคุมให้เบี้ยประกันนั้นเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะ ทำได้

ขึ้นอยู่กับแผนประกันภัยที่คุณได้เลือกไว้ แผนประกันสุขภาพบางประเภทให้ความคุ้มครองแบบครบวงจรขณะอยู่ในต่างประเทศ แต่บางประเภทก็ให้จำกัดระยะเวลาการให้ความคุ้มครองหรือวงเงินความคุ้มครองขณะอยู่ในต่างประเทศ โปรดทราบว่า แผนประกัน ‘ต้นทุนต่ำ’ ซึ่งให้ความคุ้มครองในระดับที่เพียงพอในประเทศไทย ไม่ได้ให้ความคุ้มครองที่เพียงพอขณะเข้ารับการรักษาในต่างประเทศเสมอไป หากคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศ โปรดแจ้งให้เราทราบล่วงหน้าเพื่อที่ว่าเราจะได้ช่วยเหลือแผนประกันภัยที่เหมาะกับคุณ และให้ความช่วยเหลือในการทำประกันการเดินทางด้วย

บริษัทต่างๆ ที่เราร่วมงานด้วยจะไม่มีการยกเลิกกรมธรรม์ของคุณกรณีที่คุณมีการเรียกร้องค่าสินไหม มากสุดคือมีการกำหนดส่วนบวกเพิ่ม เบี้ยประกัน เช่น 25% หลังพ้นปีที่มีการเรียกร้องค่าสินไหมในจำนวนที่สูง ผู้รับประกันในประเทศไทยมักจะมีเงื่อนไขเกี่ยวกับส่วนลดประวัติดีและส่วนเพิ่มประวัติไม่ดี และมีการกำหนดส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกัน ผู้รับประกันในต่างประเทศไม่มีระบบนี้ และไม่ว่าจะเรียกร้องค่าสินไหมกี่ครั้งก็ตาม คุณก็จะจ่ายเบี้ยประกันเท่ากันกับคนอื่นที่มีอายุเท่ากันและซื้อประกันแบบเดียวกัน

ขึ้นอยู่กับแผนประกันภัยที่คุณได้เลือกไว้ โดยทั่วไปแล้วมี 2 แบบ

1 แผนเบี้ยประกันแบบชุมชน

ภายใต้แผนเบี้ยประกันแบบชุมชน ทุกคนที่อายุเท่ากันและซื้อประกันแบบเดียวกันจะจ่ายเบี้ยประกันเท่ากันไม่ว่าจะมีประวัติการเคลมหรือไม่ก็ตาม เบี้ยประกันของแต่ละคนจะไม่มีส่วนบวกเพิ่มเมื่อมีการเคลมประกัน

2 แผนเบี้ยประกันเฉพาะบุคคล (หรือแผนเบี้ยประกันตามประสบการณ์)

ภายใต้แผนเบี้ยประกันเฉพาะบุคคล อาจมีการปรับเบี้ยประกันตามประวัติการเคลม คุณอาจได้รับส่วนลดประวัติดีหากในปีที่ผ่านมาไม่มีการเคลมประกันเลย แต่หากมีการเคลมประกัน ผู้รับประกันก็อาจกำหนดส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกันเมื่อมีการต่ออายุกรมธรรม์ในปีถัดไป เปอร์เซ็นต์ส่วนบวกเพิ่มสูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท แต่ต้องจำไว้ว่า บางบริษัทอาจบวกเพิ่มไปถึง 10% และทำให้คุณไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ ทั้งสองตัวเลือกนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ไม่ดีแน่หากมีการบวกเบี้ยประกันเพิ่มหลังจากที่คุณเคลมประกัน และก็ไม่ดีแน่หากเบี้ยประกันนั้นปรับเพิ่มทุกปีซึ่งส่วนใหญ่เป็นเบี้ยประกันแบบชุมชน เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลปรับเพิ่มขึ้น

ไม่ได้ ในกรณีที่เป็น FMU (การรับประกันสุขภาพแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องมีการกรอกแบบสอบถามสุขภาพ) แบบฟอร์มที่คุณได้กรอกรายละเอียดไว้ก่อนทำประกันถือเป็นจุดเริ่มต้น อาการต่างๆ ที่คุณมีหลังจากเริ่มทำประกันแล้วจะอยู่ภายใต้ความคุ้มครองและไม่มีการกำหนดข้อยกเว้นใหม่

แผนประกันสุขภาพบางประเภทมีการให้ส่วนลดประวัติดี ซึ่งจะเรียกว่าแผนเบี้ยประกันเฉพาะบุคคล หากคุณไม่มีการเคลมประกันเลย คุณก็จะได้รับส่วนลดประวัติดี แต่หากคุณมีการเคลมประกัน ไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับส่วนลดประวัติดี แต่เบี้ยประกันก็อาจปรับเพิ่มขึ้นในปีถัดไป แผนเบี้ยประกันแบบชุมชน (มักเป็นผู้รับประกันในต่างประเทศ) ไม่มีการใช้ระบบส่วนลดประวัติดีและส่วนเพิ่มประวัติไม่ดี

ได้ มีผู้รับประกันหลายรายที่เสนอทางเลือกให้สามารถชำระเบี้ยประกันรายเดือนได้ ซึ่งบางรายไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม แต่บางรายก็เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในจำนวนเล็กน้อย กรณีที่ประสงค์ชำระเบี้ยประกันเป็นรายเดือน โปรดติดต่อเราได้ทุกเมื่อ

สำหรับผู้รับประกันในประเทศไทย คุณสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ทุกเมื่อระหว่างปีกรมธรรม์ บริษัทจะคืนเงินให้คุณตามรายละเอียดการคืนเงินแต่ไม่คิดตามส่วน ในส่วนของผู้รับประกันในต่างประเทศ จะขึ้นอยู่กับบริษัทนั้นๆ บางแห่งก็อนุญาตให้ยกเลิกกรมธรรม์ได้และคืนเงินให้ตามสัดส่วน และบางแห่งอนุญาตให้ยกเลิกกรมธรรม์ได้ในบางกรณีเท่านั้น

ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองกรณีเดินทางไปต่างประเทศภายใต้กรมธรรม์ประกันสุขภาพที่คุณมีอยู่ คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยจะเลือกทำประกันสุขภาพสำหรับผู้ป่วยในเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอกในประเทศไทยนั้นไม่แพง ส่วนค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอกในต่างประเทศนั้นค่อนข้างสูง ประกันการเดินทางช่วยจัดการกับกรณีที่ต้องรับการรักษาสำหรับผู้ป่วยนอกได้ (ไม่มีสภาพที่เป็นมาก่อนเอาประกัน)

ใช่ กรณีที่รักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ผู้รับประกันจะชำระค่าใช้จ่ายให้ทางโรงพยาบาลโดยตรง สำหรับผู้ป่วยนอก ก็ขึ้นอยู่ที่ว่า บริษัททำข้อตกลงการชำระค่าใช้จ่ายโดยตรงกับทางโรงพยาบาลหรือไม่ แนะนำว่าไม่ควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐในประเทศไทยเพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ ไว้กับบริษัทประกัน หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐ คุณก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเองไปก่อนแล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง

ขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน ผู้รับประกันในประเทศไทยมักทำสัญญาไว้กับโรงพยาบาลคู่สัญญา หากคุณเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญา บริษัทประกันก็จะชำระค่าใช้จ่ายให้ทางโรงพยาบาลโดยตรง ผู้รับประกันในประเทศไทยแต่ละรายจะมีรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาอยู่มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหรือหลายแห่งที่อยู่ใกล้บ้านคุณ ผู้รับประกันในต่างประเทศมักไม่มีการทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลคู่สัญญา คุณจึงสามารถเลือกโรงพยาบาลได้โดยอิสระ

มี 2 ทางเลือกกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

1/ การเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉิน

ในกรณีนี้ คุณอาจแสดงบัตรประกันสุขภาพกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะติดต่อกับบริษัทประกันเพื่อขอข้อมูล และสอบถามเกี่ยวกับการชำระค่าใช้จ่ายโดยตรง โปรดทราบว่า ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลา ระหว่างที่รอบริษัทประกันอนุมัติค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาลอาจขอให้คุณชำระเงินมัดจำก่อนเพื่อเริ่มการรักษา

2/ การเข้ารับการรักษาแบบไม่ฉุกเฉิน มักเป็นการไปพบแพทย์ในฐานะผู้ป่วยนอกจากปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น หากแพทย์เห็นว่าต้องทำการผ่าตัดและไม่ฉุกเฉิน คุณก็อาจแสดงบัตรประกันสุขภาพให้กับแพทย์ และขอให้ดำเนินการขออนุมัติกับบริษัทประกัน ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาสองสามวัน เมื่อบริษัทประกันยืนยันการชำระค่าใช้จ่ายแล้ว ทางโรงพยาบาลก็จะโทรนัดคุณอีกที

หมายเหตุ: กรณีที่ไม่ฉุกเฉิน ให้แจ้งแพทย์เพื่อทำเรื่องขออนุมัติกับบริษัทประกันก่อน หากไม่สามารถทำได้ บางบริษัทก็อาจจะหักค่าใช้จ่ายจากใบแจ้งหนี้ที่คุณต้องชำระในภายหลังได้

แผนประกันสุขภาพเกือบทั้งหมดมีการกำหนดอายุสูงสุดไว้ คุณสามารถซื้อประกันสุขภาพได้จนถึงอายุ 75 ปี มีเพียงบางบริษัทเท่านั้นที่รับประกันสุขภาพให้กับบุคคลอายุมากกว่า 75 ปี

ใช่ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณจะต้องทราบรายละเอียดของสิ่งที่คุณจะซื้อเป็นอย่างดีเสียก่อน

ใช่ การปิดบังเรื่องใดเรื่องหนึ่งไว้อาจก่อให้เกิดปัญหากับคุณในภายหลังได้หากผู้รับประกันตรวจพบ ผู้รับประกันมีสิทธิยกเลิกกรมธรรม์ของคุณได้หากตอบคำถามไม่ตรงกับความจริง ผู้รับประกันอาจยกเลิกกรมธรรม์ได้หากพบว่าปัญหาสุขภาพที่ระบุไว้นั้นไม่ตรงกับอาการที่ทำให้คุณต้องเข้ารับการรักษา ดังนั้นทางที่ดีต้องตอบทุกคำถามตามความจริง

โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยสำหรับบุคคลสัญชาติไทยในประเทศไทยมี 3 แบบคือ

-ประกันภัยสำหรับลูกจ้างของรัฐ

-ประกันภัยสำหรับพนักงานภาคเอกชน (ประกันสังคม)

-โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค)

หมายความว่า ผู้ที่มีสัญชาติไทยทุกคนสามารถไปพบแพทย์/โรงพยาบาลได้โดยแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็จำกัดเพียงโรงพยาบาลรัฐตามที่กำหนดเท่านั้น (และโรงพยาบาลรัฐอื่นๆ กรณีฉุกเฉิน) ค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ที่ 3,360 บาท (ปี พ.ศ. 2564) ด้วยงบประมาณในระดับนี้ ก็ไม่อาจคาดหวังการดูแลอย่างดีหรือการได้รับยาที่แพงได้ หากคู่สมรสที่เป็นคนไทยของท่านประสงค์จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน คุณควรทำประกันเพิ่มเติมให้

ไม่ ไม่ว่าคุณจะซื้อประกันสุขภาพจากบริษัทประกันโดยตรงหรือซื้อประกันผ่านเรา เบี้ยประกันก็เท่ากัน ในความเป็นจริงแล้ว เนื่องจากกำลังซื้อในระดับสูงของเรา ก็เป็นไปได้ที่จะได้รับเบี้ยประกันในอัตราที่ต่ำกว่า นอกจากนี้หากคุณซื้อประกันจากบริษัทประกันโดยตรง คุณจะมีตัวเลือกเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น ในทางกลับกันหากใช้บริการของเรา คุณจะมีตัวเลือกมากมายจากบริษัทประกันทุกแห่งเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อได้ ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเรามุ่งมั่นให้บริการเพื่อผลประโยชน์ของคุณเป็นหลัก ไม่ใช่บริษัทประกัน คุณจึงสามารถวางใจในการให้ความช่วยเหลือเคลมประกันได้อย่างเต็มที่!